กุมภาพันธ์

หลังจากต้อง Work From Home กันมาเป็นเวลานาน การลงทุนซื้อโต๊ะทำงานปรับระดับไฟฟ้า และเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพอาจไม่เพียงพอต่อการสร้างบรรยากาศให้น่าทำงาน การแต่งออฟฟิศในบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน และเพื่อสร้างความโปรดักทีฟในการทำงาน ให้ไอเดียพุ่งกระฉูด Norden Barn B&B จึงมี 15 ไอเดียตกแต่งโฮมออฟฟิศมาเป็นแนวทางให้กับคนทำงานที่บ้านทุกคนกัน! 1. แต่งโฮมออฟฟิศเรียบง่าย เสริมด้วยเก้าอี้ทำงานสไตล์โมเดิร์น ภาพ: ห้องทำงานสไตล์โมเดิร์นเรียบง่าย เริ่มต้นด้วยการตกแต่งโฮมออฟฟิศอย่างเรียบง่าย ด้วยการเลือกโต๊ะทำงานไม้แบบบิวท์อินให้เข้ากับมุมห้อง โดยเลือกใช้โต๊ะลายไม้สีอ่อนแบบไม้โอ๊ค  เลือกใช้เก้าอี้ทำงานดีไซน์โมเดิร์นที่มีคุณภาพ นั่งสบาย ช่วยให้นั่งทำงานได้นานยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าจะปวดหลัง เสริมด้วยโคมไฟแขวนผนังสไตล์โมเดิร์น ช่วยแต่งออฟฟิศในบ้านให้ดูสบายตา แต่ไม่ทิ้งดีไซน์ที่สวยงาม 2. แต่งออฟฟิศในบ้านให้โมเดิร์น ด้วยโต๊ะท็อปกระจก และเก้าอี้ทำงานสีขาวดูหรูหรา ภาพ: ห้องทำงานตกแต่งแบบโมเดิร์น หรูหรา ภาพ: House No.5 เก้าอี้ทำงาน รุ่น MGOF001 เบาะสีขาว ต่อมาเป็นการตกแต่งโฮมออฟฟิศให้ดูโมเดิร์นหรูหรา ด้วยการเลือกใช้โต๊ะทำงานท็อปกระจก โครงสแตนเลสดูแข็งแกร่ง และเก้าอี้ทำงานสไตล์โมเดิร์นสีขาว ช่วยเพิ่มความหรูหราให้มากยิ่งขึ้น เสริมความสดชื่นด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ ปลูกไว้ในกระถางสีขาวเข้ากับภาพรวมภายในห้อง 3. จับคู่สีขาว-น้ำเงิน ช่วยตกแต่งออฟฟิศในบ้านให้มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น ภาพ: ห้องทำงานสไตล์โมเดิร์นสีขาว-น้ำเงิน ภาพ: Avitaa | เก้าอี้ทำงาน รุ่น Qabil Navy ขาเงิน ห้องทำงานสีขาวธรรมดาทั่วไป อาจทำให้บรรยากาศดูน่าเบื่อ ไม่มีชีวิตชีวา ทำให้บรรยากาศน่าทำงานน้อยลง ลองเสริมด้วยเฟอร์นิเจอร์และของแต่งห้องสีน้ำเงิน ทั้งเก้าอี้ทำงานสไตล์โมเดิร์น กรอบรูป และรูปตกแต่งห้องโทนสีเดียวกัน ช่วยให้ตกแต่งโฮมออฟฟิศให้ดูสดใสขึ้นได้ง่าย ๆ 4. เลือกใช้สีน้ำตาลเป็นหลัก แต่งออฟฟิศภายในบ้านให้มีบรรยากาศสไตล์สแกนดิเนเวีย ภาพ: ห้องทำงานสไตล์สแกนดิเนเวีย ภาพ: Flowork เก้าอี้สำนักงาน รุ่น CH18-0301M-PP สีน้ำตาล ใครที่ชอบการแต่งบ้านสไตล์สแกนดิเนเวีย ควรเลือกแต่งออฟฟิศในบ้านด้วยสีน้ำตาลเป็นหลัก และแทรกด้วยสีดำ ช่วยเพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเลือกใช้โต๊ะทำงานโครงเหล็กสีดำ คู่กับเก้าอี้ทำงานเบาะหนังสีน้ำตาลสุดคลาสสิก และเสริมความสบายตาด้วยต้นไม้ และของแต่งห้องดีไซน์โมเดิร์นไม่เหมือนใคร 5. เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เฉพาะตัว ตกแต่งโฮมออฟฟิศให้น่าทำงานยิ่งขึ้น ภาพ: ห้องทำงานสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ ภาพ: The Peak Decor เก้าอี้มีพนักพิงและที่วางแขน เบาะหนังสีน้ำตาล เก้าอี้เบาะหนังดีไซน์โมเดิร์นคลาสสิกแบบ Mid-Century Modern เมื่อนำมาจับคู่กับโต๊ะทำงานไม้ กั้นโซนให้เป็นส่วนตัวด้วยกระจกใส และเสริมด้วยโคมไฟตั้งพื้น ดีไซน์เหมือนไฟสปอตไลท์ช่วยตกแต่งออฟฟิศในบ้านให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวยิ่งขึ้น 6. เพิ่มมุมพักผ่อนให้กับการแต่งออฟฟิศในบ้าน เสริมการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ภาพ: ห้องทำงานพร้อมมุมพักผ่อน ภาพ: Pulito เก้าอี้พักผ่อน Engle blue สีน้ำเงิน นอกจากโต๊ะและเก้าอี้ทำงานแล้ว การสร้างมุมพักผ่อนในห้องทำงานก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยสร้างความโปรดักทีฟในการทำงานได้เช่นกัน เพราะเป็นพื้นที่ให้นั่งพักในช่วงเวลาทำงาน ช่วยให้ไอเดียไหลลื่นได้ดีขึ้น

ยุคสมัยเปลี่ยน พฤติกรรมของการอยู่อาศัยก็เปลี่ยนตาม นอกจากต้องเลือกซื้อบ้านให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนอยู่แล้ว ยังจำเป็นต้องเปลี่ยนไอเดียแต่งบ้าน ให้เป็นทั้งบ้านน้อยหลังงามและพื้นที่ทำงาน ในยามที่ต้อง Work form Home หรืออยากเป็นเถ้าแก่น้อย เปลี่ยนบ้านหรือทาวน์โฮมให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศได้อย่างลงตัว ปัจจุบันต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ค่านิยมในการตกแต่ง รีโนเวทบ้าน โดยเฉพาะทาวน์โฮมให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ น่าอยู่ น่าทำงานนั้นกำลังมาแรง นับตั้งแต่ทุกคนได้ทำความรู้จักกับข้อดีของการได้ทำงานที่บ้าน เมื่อครั้งต้องเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด และแม้โควิดจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น เบาบางลงไปทุกทีแล้ว แต่ไอเดียแต่งทาวน์โฮม ให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศก็ไม่เคยลดลง ในทางกลับกันยิ่งฮอตมากกว่าเดิม เพราะค่านิยมในการประกอบธุรกิจส่วนตัว ธุรกิจ SME ขายของออนไลน์ เป็นบล็อกเกอร์ สตรีมเมอร์ หรือแม้แต่เป็น Influencer ก็กำลังเรียกรายได้ให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ และคนวัยทำงาน สิ่งควรคำนึง ก่อนแต่งทาวน์โฮม ให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ สำรวจพื้นที่ในบ้าน ที่ต้องการแต่งเป็นโฮมออฟฟิศ ส่วนใหญ่มักเลือกชั้น 1 หรือ ชั้น 1 และ 2 สำหรับทาวน์โฮม 3 ชั้น โดยเว้นพื้นที่ชั้น 3 เป็นโซนพักผ่อนของครอบครัว กำหนดงบประมาณ ตามกำลังเงินในกระเป๋า เลือกแบบไอเดียตกแต่งทาวน์โฮม ให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ ตามรูปแบบของธุรกิจ ติดต่อ สอบถามข้อมูล บริษัทที่รับออกแบบตกแต่ง 7 ไอเดียแปลงโฉมทาวน์โฮม ให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ   1. แปลงโฉมห้องนั่งเล่นในทาวน์โฮม เป็นโฮมออฟฟิศขนาดกะทัดรัด หากมีพื้นที่ทาวน์โฮมจำกัด สามารถเลือกมุมห้องนั่งเล่นให้กลายเป็นห้องทำงาน โฮมออฟฟิศขนาดเล็ก เหมาะสำหรับคนทำงานที่มีสมาชิกไม่เยอะ หรือทำคนเดียวได้ อยากการขายของออนไลน์ หรือรับทำ Data Analysis เป็นต้น 2. เปลี่ยนห้องอเนกประสงค์ในทาวน์โฮม กลายเป็นโฮมออฟฟิศ ฉบับเกมเมอร์ คนรุ่นใหม่หลายคนต่างหันมาเอาดีด้าน Esports (Electronic Sports) บางคนถึงขั้นผันตัวเป็นสตรีมเมอร์ หารายได้เป็นกอบเป็นกำ สร้างรายได้หลักให้กับครอบครัว เหตุนี้จึงทำให้ต้องพลิกชีวิตทาวน์โฮมที่เอาไว้อยู่อาศัย ให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศขึ้นมาทันที เหมือนอย่างบ้านหลังนี้ ที่เนรมิตห้องอเนกประสงค์ให้กลายเป็นห้องสำหรับสตรีมเกมส์ สร้างเพจ สร้างช่องทาง YouTube, TikTok โดยเฉพาะ   3.พื้นที่มีจำกัดเลือกมุมนึงของบ้าน ให้กลายเป็นพื้นที่ครีเอทีฟงาน สายครีเอทีฟอยากสร้างสรรค์ผลงาน ผลิตชิ้นงานส่งลูกค้า หรือตั้งเอเจนซี่เล็กๆ ในบ้าน ด้วยการแปลงโฉมทาวน์โฮม ให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ ด้วยจุดเริ่มต้นเลือกมุมนึงของบ้าน พร้อมจัดวางคอมพิวเตอร์สักตัว พร้อมพื้นที่ไว้ผ่อนคลาย สร้างไอเดียใหม่ๆ ก่อนที่จะเริ่มลงมือตกแต่งโฮมออฟฟิศทั้งชั้น ก็ถือเป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย   4.เปลี่ยนทาวน์โฮม ให้เป็นโฮมออฟฟิศแบบฉบับแฟชั่นนิสต้า สายแฟชั่นเป็นต้องร้องกรี๊ด เมื่อได้ไอเดียแปลงโฉมทาวน์โฮมให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ แบบฉบับแฟชั่นนิสต้าโดยเฉพาะ เพียงปรับเปลี่ยนห้องนอนสักห้องให้กลายเป็นจุดดีไซน์เสื้อผ้าต่างๆ พร้อมปรับพื้นที่ชั้นล่าง ให้เป็นแหล่งรวมพลคนรักงานแฟชั่น

SME หรือ Startup เป็นธุรกิจที่ต้องการความ active สูง ต้องขยับตัวเร็วกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ การลงทุนในธุรกิจ SME ต้องเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและลดต้นทุน ได้มากที่สุด ในส่วนของออฟฟิศพบว่าธุรกิจ SME หลายเจ้าเลือกที่จะไม่เช่าพื้นที่ออฟฟิศในอาคารสำนักงาน แล้วเลือกที่จะซื้อ Home Office ด้วยตัวเอง เรามาดูกันว่ามีเหตุผลอะไรบ้างที่เจ้าของธุรกิจ SME เลือกทำงานที่ Home Office 1. Home Office ช่วยลดเวลาการเดินทาง ธุรกิจ SME ยังต้องพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทุกทรัพยากรต้องได้รับการใช้ให้คุ้มค่า เมื่อเทียบกับบริษัทขนาดใหญ่แล้วเงินทุนอาจไม่เท่ากัน แต่เวลาของเจ้าของมี 24 ชั่วโมงเท่ากัน ต้องจัดสรรให้คุ้มค่าเวลาจึงมีค่ามากกว่าเงิน เรามีตัวเลขมาให้คุณลองคิดดูง่ายๆ เร็วๆ หากต้องเดินทางทุกวันคุณจะเสียเวลาไปเท่าไหร่ 2. Home Office ช่วยลดต้นทุน ช่วงเริ่มต้นธุรกิจ SME อะไรประหยัดได้ก็ดี การมีบ้านและออฟฟิศอยู่ที่เดียวกัน สามารถช่วยประหยัดทรัพยากรได้มากกว่าเดิม เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าส่วนกลาง จบได้ในที่เดียว ลองเทียบดูจะเห็นว่าการอยู่ Home Office ได้ประโยชน์จากการลดต้นทุนหลายต่อ เช่น ลดทุนโดนชาร์จค่าไฟ  –เมื่อต้องเช่าออฟฟิศอยู่ในอาคารหลายที่อาจไม่ได้คิดค่าไฟตามจริง ซึ่งไฟฟ้าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการทำธุรกิจ แค่ได้จ่ายตามมิเตอร์จริงก็ทุ่นไปเดือนละหลายพันแล้ว ค่าส่วนกลางที่ไม่จำเป็น – เห็นชัดเจนคือค่าไฟจากลิฟท์ ที่คุณต้องหารร่วมกับออฟฟิศอื่นๆ ถ้าอยู่ Home Office แม้จะมีค่าส่วนกลางเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้มีค่าไฟฟ้าสูงขนาดอยู่บนตึกที่มีลิฟท์ ลดต้นทุนการมีค่าใช้จ่าย Double –  เช่น ค่าอินเทอร์เน็ต เมื่อบ้านกับออฟฟิศอยู่คนละที่กัน ค่าใช้จ่ายก็ x2 แต่ถ้าคุณต้องจ่ายค่าอินเทอร์เน็ตและสาธารณูปโภคให้ออฟฟิศอยู่แล้ว ก็จะสามารถทำให้ตัดค่าใช้จ่ายไปได้อีกหลังหนึ่งเลย การลดต้นทุนต่างๆ ดูเหมือนน้อย พอเอาตัวเลขมารวมกัน คุณอาจจะเห็นว่าสามารถผ่อนบ้านหรือคอนโดได้อีกหลังเลย 3. ทำเลย่านธุรกิจของ Home Office เมื่อเทียบกับเปิดเอง พอจะเห็นข้อดีของการที่ออฟฟิศไม่ได้อยู่บนตึกบ้างแล้ว แต่ถ้าเกิดจะอยากไปเปิดเองอย่าลืมเรื่องของ “ทำเลที่ตั้ง” ซึ่ง Home Office ช่วยให้ประโยชน์ด้านทำเลได้หลายอย่าง เช่น ลูกค้ามาง่าย – Home Office ที่ดูสะอาดตั้งแต่หน้ารั้วโครงการ ก็ช่วยเพิ่มราศีให้ลูกค้าอยากแวะมาคุยงานได้บ่อยขึ้น ใช้รับรองลูกค้าได้เต็มที่ ลูกน้องก็มาง่าย – จะห่วงเจ้าของอย่างเดียวไม่ได้ ทำเลย่านธุรกิจย่อมมีความสะดวกในการเดินทางมากกว่า หากชีวิตลูกน้องดีขึ้น งานก็ดีขึ้น ที่ตั้งอยู่ใจกลางทำเลที่เหมาะสมกับธุรกิจนั้นๆ ไม่เพียงทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงธุรกิจได้มากขึ้น แต่ชีวิตครอบครัวหลังการทำงานของคุณ ยังได้อาศัยอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดในเวลาเดียวกัน 4. Home Office มีความอิสระสูง