“สมาร์ทโฮม” ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่เปลี่ยนบ้านให้เป็นโฮมออฟฟิศ
ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การแพร่ระบาดของ COVID-19 ประกอบกับเด็กรุ่นใหม่ Gen-Z ที่เริ่มก้าวเข้าสู่วัยทำงาน ทำให้ค่านิยมในการทำงานของสังคมเริ่มแตกต่างไปจากที่เคยมี เช่น กระแส Work life balance แยกการทำงานออกจากชีวิตส่วนตัวอย่างชัดเจน เน้นความเป็นอิสระ ชีวิตต้องมีความยืดหยุ่น นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม เดี๋ยวนี้เราจึงเห็นธุรกิจใหม่ ๆ หรือ Start-up ที่แม้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่ ไม่ได้มีจำนวนพนักงานเยอะ ออฟฟิศไม่ได้ใหญ่โต เกิดขึ้นมาเยอะมาก ขณะเดียวกันเราก็ได้เห็นเทรนด์อีกอย่างหนึ่งที่เกิดควบคู่มากับธุรกิจขนาดเล็ก นั่นคือ “โฮมออฟฟิศ” โฮมออฟฟิศ เป็นตัวชี้วัดที่ดีว่าค่านิยมการทำงานในสังคมกำลังจะเปลี่ยนไป เพราะโฮมออฟฟิศก็มาจากการนำคำว่า “โฮม (Home)” ที่แปลว่าบ้าน กับ “ออฟฟิศ (Office)” ที่แปลว่าสถานที่ทำงานมาผสมรวมกัน กลายเป็นบ้านกึ่งออฟฟิศ หรือออฟฟิศในบ้าน ซึ่งแฝงค่านิยมของคนรุ่นใหม่อยู่ในนั้น ยิ่งในวิกฤติ COVID-19 บวกกับกระแสที่คนเน้นการทำงานแบบ Remote Work แบบนี้ ทำให้บทบาทของออฟฟิศในตึกใหญ่กำลังถูกลดความสำคัญลงไป แทนที่ด้วยการมาของสมาร์ทโฮม ที่เราสามารถดัดแปลงหรือรีโนเวทบ้านของเราเองให้เป็นโฮมออฟฟิศได้ไม่ยาก ลักษณะของโฮมออฟฟิศ กรณีที่เราต้องการเปลี่ยนบ้านของเราให้เป็นโฮมออฟฟิศด้วยตัวเอง เราสามารถออกแบบให้เข้ากับไลฟ์สไตล์หรือธุรกิจของเราได้เลย แต่หากใครต้องการความสะดวกสบายยิ่งกว่านั้น เดี๋ยวนี้ก็มีหลายโครงการที่ออกแบบบ้านมาเพื่อเป็นทั้งบ้านและโฮมออฟฟิศโดยเฉพาะ โฮมออฟฟิศ ที่จริงแล้วก็ไม่ต่างไปจากบ้านที่เราอยู่อาศัยกันทั่วไป ไม่มีลักษณะตายตัว เป็นได้ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือตึกแถว ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการแบ่งสัดแบ่งส่วนระหว่างธุรกิจและบ้านในรูปแบบไหน โฮมออฟฟิศที่เราเห็นกันส่วนมาก มักจะอยู่ในรูปแบบทาวน์โฮมที่มี 3 ชั้นขึ้นไป เนื่องจากสามารถแบ่งพื้นที่ได้ชัดเจน เช่น ชั้นล่างสำหรับเป็นที่ทำงาน ส่วนชั้นบนสุดเป็นที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ โฮมออฟฟิศส่วนใหญ่มักจะตั้งอยู่นอกเขตธุรกิจ (CBD) ซึ่งมีตึกสำนักงานสูง ๆ อยู่หนาแน่น ดังนั้นพื้นที่จึงยืดหยุ่นได้ และบรรยากาศก็ดูมีความสบายมากกว่า สำหรับใครที่ต้องการปรับเปลี่ยนบ้านให้เป็นโฮมออฟฟิศ สมาร์ทโฮม หรือกำลังหาทำเลดี ๆ อยู่ ควรคำนึงถึงเรื่องอะไรบ้าง วันนี้เรามีคำตอบ ทำเลที่ตั้ง ไม่ว่าจะรีโนเวทบ้านที่มีอยู่แล้ว หรือเลือกซื้อโฮมออฟฟิศใหม่ สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก่อนเรื่องอื่น ๆ ก็คือเรื่องของทำเลที่ตั้ง ก็จริงอยู่ที่โฮมออฟฟิศจะเน้นความสะดวกสบายของผู้ทำงาน แต่การทำธุรกิจต่าง ๆ แน่นอนว่าความสะดวกสบายของลูกค้าก็สำคัญ ดังนั้นเราจึงควรดูด้วยว่า โฮมออฟฟิศของเราเดินทางมาได้สะดวกหรือไม่ แม้โฮมออฟฟิศส่วนใหญ่จะไม่ได้ตั้งอยู่ในเขต CBD ที่มีรถไฟฟ้าเข้าถึงอย่างสะดวกสบาย แต่ก็ควรจะสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก เช่นอยู่ใกล้ทางด่วน หรือไม่ไกลจากขนส่งสาธารณะเป็นต้น พื้นที่ใช้สอย โฮมออฟฟิศอาจมีลักษณะคล้ายกับบ้านพักอาศัย บางแห่งก็อยู่ในโครงการจัดสรร พื้นที่ใช้สอยก็มีขนาดแตกต่างกันไปในแต่ละโครงการ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่เราต้องคำนึงถึงเมื่อจะเลือกโฮมออฟฟิศ โดยเฉพาะการจะปรับเปลี่ยนบ้านของเราเอง นั่นคือ ความปลอดภัย ปกติแล้ว หากเป็นตึกสำนักงานต่าง ๆ ย่อมมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด ขณะที่โฮมออฟฟิศ แม้จะอยู่ในโครงการจัดสรรที่มีป้อมยาม แต่ในแต่ละวันก็มักจะมีคนเข้าออกโครงการเป็นจำนวนมาก ทั้งพนักงานและผู้ติดต่อ ดังนั้นเทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยก็เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ เช่น กล้องวงจรปิด ระบบประตูอัตโนมัติที่อาจใช้เป็นระบบสแกนลายนิ้วมือเพื่อสกรีนคนเข้า-ออก นอกจากในส่วนพื้นที่ทำงานแล้ว เรายังต้องให้ความปลอดภัยพื้นที่อยู่อาศัยไม่แพ้กัน นอกจากควรจะแยกออกจากออฟฟิศอย่างชัดเจนแล้ว