สันทราย

ประโยชน์ใช้สอยแบบครบครันของ โฮมออฟฟิศ (Home Office) กลายเป็นทางเลือกที่เป็นที่นิยมสำหรับคนรุ่นใหม่ เพราะสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่เพื่อเปิดเป็นออฟฟิศที่บ้านได้ เพราะความหมายใหม่ในการทำงานที่ อยากเป็นเจ้านายตัวเองแทนการทำงานในองค์กรขนาดใหญ่แบบเมื่อก่อน โฮมออฟฟิศ (Home Office) จึงกลาย เป็นพื้นที่ที่สามารถรองรับอนาคตในการทำงานได้ ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาพื้นที่ที่ปรับเปลี่ยนได้ง่ายเช่นนี้  เราหยิบข้อดี-ข้อเสีย ของ โฮมออฟฟิศ (Home Office) มาเล่าสู่กันฟังก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านสักหลัง

ข้อดี ของโฮมออฟฟิศ

ลดเวลาการเดินทางไปทำงาน

หนึ่งในข้อดีของการแปลงบ้านให้เป็น Home Office คือการไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางไป และกลับที่ทำงาน บางคนอาจใช้เวลาไปกลับถึง 2 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว ซึ่งจำนวนเวลาขนาดนี้ คุณสามารถดีไซน์ไลฟ์สไตล์ให้มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้นได้ เช่น แบ่งเวลาไปออกกกำลังกายช่วงเช้า ได้เวลาทำงานอดิเรกหรืออ่านหนังสือเล่มโปรด ก็ย่ิงทำให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้

ดีไซน์พื้นที่ได้ตามใจ

ถ้าเป็นพื้นที่ทำงานของสำนักงานใหญ่ๆ พื้นที่ก็มักจะมีโต๊ะ เก้าอี้ แบ่งสัดส่วนไว้เรียบร้อยแล้ว แต่บางครั้งเราอาจจะไม่ได้ใช้พื้นที่ของสำนักงานให้คุ้มกับค่าเช่า ซึ่งแตกต่างจากโฮมออฟฟิศ ที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันของพื้นที่ได้ตามต้องการ จะดีไซน์พื้นที่ทำงานแบบเปิด ห้องประชุมเล็กๆ พื้นที่แชร์ไอเดีย ฯลฯ เพื่อให้ได้ออฟฟิศที่คุณต้องการได้อย่างแท้จริง

ลดต้นทุนเรื่องการเช่าสำนักงาน

เมื่อใช้โฮมออฟฟิศเป็นที่ทำงาน ทำให้ไม่ต้องเสียเงินค่าเช่าอีกต่อหนึ่งเพื่อเช่าสำนักงานใหญ่ๆ เป็นการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายเรื่องการเช่าออฟฟิศได้ไม่น้อยเลย

จอดรถง่าย

ถ้าที่ทำงานของคุณไปเช่าตามสำนักงานใหญ่ๆ ที่อาจจะมีการคิดจำนวนคนและให้ที่จอดรถ ไม่มากนัก แต่ถ้าเลือกโฮมออฟฟิศเป็นที่ทำงานก็จะสามารถจอดรถในโครงการได้ไม่จำกัด แถมยังมีระบบรักษาความปลอดภัยได้คอยดูแลอยู่ด้วย

บรรยากาศเป็นกันเอง

บรรยากาศของโฮมออฟฟิศก็จะให้ความเป็นกันเองมากกว่าบรรยากาศของสำนักงานใหญ่ๆ ที่มีหลายสิบชั้น นอกจากพื้นที่ทำงานที่เป็นกันเอง ยังสามารถดีไซน์เวลาการทำงานได้เอง ไม่ต้องอิงกับระบบของอาคารใหญ่ๆ เท่านี้ก็ช่วยให้บรรยากาศการทำงานผ่อนคลาย เป็นกันเองและสร้างสรรค์ขึ้นได้ง่ายๆ เลย อ่านถึงตรงนี้แล้วบางคนอาจจะเริ่มรู้สึกว่าอยากมีโฮมออฟฟิศเป็นของตัวเองเพื่อเริ่มทำธุรกิจหรือลงทุนปล่อยเช่า ที่ Norden Barn B&B เรามีโฮมออฟฟิศดีไซน์ใหม่ที่เป็นได้ทั้งที่อยู่อาศัยและที่ทำธุรกิจ สร้างรายได้ให้คุณ ปล่อยเช่าก็ดี มีคนรอเช่าเพียบกับทำเลที่สันทราย - แม่โจ้ ใกล้แหล่งธุรกิจ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และแหล่งชุมชน เดินทางง่ายใกล้ถนนใหญ่   กับฟังก์ชันภายในที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย พื้นที่กว้าง ตอบโจทย์กับ 3 ชั้น 4 ห้องนอนและห้องน้ำ พร้อมจอดรถได้ 2 คัน และส่วนกลางสระว่ายน้ำให้คุณได้ผ่อนคลายตลอดการอยู่อาศัย โฮมออฟฟิศ ทำเลดี ฟังก์ชันตอบโจทย์ ลงทุนก็คุ้ม อาศัยเองก็ดีสุดๆ เริ่มต้น 4.XX ล้านบาทเท่านั้น! ติดต่อนัดเข้าชมวันนี้รับสิทธิพิเศษ ส่วนลดหลายรายการ สนใจสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร : 064 481 2555 หรือ 061 902 3993 Facebook : https://www.facebook.com/Nordenassets Tag : ทาวน์โฮมเชียงใหม่ โฮมออฟฟิศ เชียงใหม่ สันทราย แม่โจ้ Home Office

ไฟในสวน ปลุกความสว่างไสวยามค่ำคืน สร้างบรรยากาศบ้านสวย

    คงไม่มีใครไม่ชอบให้บ้านอบอวลไปด้วยบรรยากาศดีๆ โดยเฉพาะบ้านที่มีพื้นที่สวน ซึ่งสามารถตกแต่งเปลี่ยนมิติให้บ้านแตกต่างไปจากเดิมได้อย่างไม่น่าเชื่อ และหนึ่งในอุปกรณ์ตกแต่งสวนยอดนิยมคงไม่พ้นไฟแต่งสวน อุปกรณ์ให้ความสว่างแต่สามารถเปลี่ยนบ้านให้มากเสน่ห์ได้ในพริบตา

ไฟในสวนมีแบบไหนบ้าง?

    ไฟแต่งสวนมีหลายรูปแบบ หากเลือกประเภทไฟในสวนที่เหมาะกับพื้นที่และขนาดของต้นไม้ ก็จะยิ่งเสริมบรรยากาศให้สวนในบ้านกลายเป็นสถานที่พักผ่อนแสนอบอุ่นได้ไม่ยาก ลองมาดูกันว่าไฟจัดสวนแต่ละประเภทจะเหมาะกับการใช้งานแบบใดบ้าง

• ไฟจัดสวนแบบโคมไฟเสาสูง และโคมไฟสนาม

ไฟจัดสวนแบบโคมไฟเสาสูงและโคมไฟสนาม จะมีขนาดความสูงประมาณ 2.5-4 เมตร ซึ่งเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่สวนขนาดใหญ่ หรือมีทางเดินในสวนกว้างประมาณ 3-10 เมตร โดยนอกจากจะใช้ประดับตกแต่งสวนแล้ว ไฟในสวนประเภทนี้ยังสามารถมอบแสงสว่างในตอนกลางคืนได้ดี โดยควรเว้นระยะห่างระหว่างไฟจัดสวนแต่ละต้นประมาณ 6-12 เมตร

• ไฟจัดสวนแบบโคมไฟเตี้ย

เป็นโคมไฟที่ได้รับความนิยมในการนำมาตกแต่งสวน ด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่ ความสูงไม่เกิน 1 เมตร สามารถวางเว้นระยะระหว่างต้นได้ 4-6 เมตร ทำให้เหมาะกับจัดวางในสวนที่มีพื้นที่ขนาดกลางเป็นต้นไป สามารถให้แสงสว่างเพื่อบอกตำแหน่งทางเดินและสร้างบรรยากาศได้ดี

• ไฟจัดสวนระดับพื้นดิน หรือโคมไฟส่อง

โคมไฟรูปทรงกระบอกที่มีฐานปักในระดับพื้นดิน โดยมี 2 ประเภทการใช้งาน ทั้งโคมไฟแบบส่องขึ้น (Up Light) ซึ่งจะนิยมจัดวางบริเวณโคนต้นไม้หรือตกแต่งผนัง เพื่อให้แสงสามารถสะท้อนวัตถุได้ชัดเจน และอีกประเภทคือ โคมไฟแบบส่องลง (Down Light) ซึ่งจะนิยมตกแต่งบริเวณบนต้นไม้หรือบนที่สูง เพื่อให้แสงสว่างส่องมาบริเวณพื้นได้

• ไฟจัดสวนแบบโคมไฟฝังพื้น

เป็นโคมไฟขนาดเล็กที่มีหลายรูปทรงให้เลือก เหมาะสำหรับพื้นที่สวนที่มีการตกแต่งบริเวณผนัง ทางเดินมีของตกแต่งอื่นๆ หรือติดตั้งบริเวณใกล้ต้นไม้ นอกจากจะสร้างบรรยากาศให้กับสวนได้แล้ว ยังใช้เป็นแสงนำทางบริเวณทางเดินได้ อย่างไรก็ตามการติดตั้งโคมไฟแบบฝังพื้นควรทำรูระบายน้ำใต้ตัวโคมไฟ เพื่อป้องกันน้ำขัง หรือเลือกโคมไฟที่มีค่ามาตรฐานในการกันน้ำ IP67 หรือ IP68 ซึ่งหมายความว่าโคมไฟสามารถอยู่ในน้ำลึกท่วมถึงได้ไม่เกิน 1 เมตร และป้องกันได้ลึกสูงสุด 1.5 เมตร ในระยะเวลาครึ่งชั่วโมงและมีประสิทธิภาพในการทนทานต่อฝุ่น

• ไฟจัดสวนแบบโคมไฟติดผนัง

ลักษณะการใช้งานคล้ายกับโคมไฟฝังพื้น เพียงแต่เปลี่ยนจุดติดตั้งไปบริเวณผนัง ซึ่งในบางอุปกรณ์สามารถใช้งานแทนกันได้ เหมาะสำหรับตกแต่งพื้นที่ภายนอกที่มีขนาดกว้าง โดยเฉพาะบริเวณทางเดิน ริมขอบบันได หรือซ่อนตามผนังเพื่อเพิ่มลูกเล่นในการสร้างบรรยากาศ

• ไฟจัดสวนแบบเส้น

ปัจจุบันไฟเส้น LED ได้รับความนิยมในการนำมาใช้ตกแต่งทั้งภายในและภายนอกบ้าน เพราะมีราคาที่ไม่แพง สามารถจัดวางได้หลากหลาย มีความสว่างกำลังพอดี จึงนิยมมาใช้ตกแต่งบริเวณทางเดิน ม้านั่ง โต๊ะ เพื่อเพิ่มบรรยากาศพื้นที่นั่งเล่นในสวน หรืออาจใช้ในเวลามีงานปาร์ตี้ในสวนก็ได้

ไฟแต่งสวนติดตั้งจุดไหน จัดวางอย่างไรให้สวย

    หากเป็นบ้านเดี่ยวทั่วไปที่มีพื้นที่สวนขนาดไม่ได้ใหญ่นัก หรือเป็นสวนขนาดเล็กอาจจะเลือกจุดติดตั้งที่เหมาะสมทั้งกับขนาดพื้นที่สวนและประเภทของโคมไฟจัดสวนได้ รับรองว่าสามารถเปลี่ยนสวนให้กลายเป็นพื้นที่พักผ่อนในฝันได้เช่นกัน โดยจุดติดตั้งโคมไฟแต่งสวนที่นิยมและสามารถปรับใช้ได้ในสวนทุกขนาดมีด้วยกัน 3 จุด ได้แก่

• ไฟแต่งสวนเพื่อส่องต้นไม้

ใช้โคมไฟประเภทโคมไฟส่อง โคมไฟฝังพื้น หรือโคมไฟเตี้ยก็ได้ โดยติดตั้งในตำแหน่งใกล้กับต้นไม้ และเลือกระยะห่างของโคมไฟกับต้นไม้ตามการกระจายแสงของโคมไฟ โดยหากเป็นโคมไฟที่กระจายแสงกว้าง ควรติดตั้งกับต้นไม้ทรงพุ่มกว้าง และหากเป็นโคมไฟที่กระจายแสงแบบแคบ ควรใช้กับต้นไม้ที่มีลำต้นสูง แต่ต้นไม้ไม่ควรสูงเกิน 4 เมตร และจัดวางมุมให้แสงไฟสะท้อนเข้าต้นไม้ในมุม 35 องศา

• ไฟแต่งสวนเพื่อส่องสนาม

หากใช้ตกแต่งบริเวณพื้นที่สวนหรือสนาม สามารถเลือกใช้โคมไฟได้ทุกประเภท ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและจุดติดตั้ง หากต้องการเพิ่มแสงสว่างบริเวณทางเดินควรใช้โคมไฟแบบฝังพื้น โคมไฟติดผนัง ไฟเส้น หรือโคมไฟเตี้ย แต่หากพื้นที่สวนมีขนาดใหญ่ก็สามารถเลือกใช้โคมไฟสนามหรือโคมไฟเสาสูงได้

• ไฟแต่งสวนแบบไฟทางเดิน

ไฟทางเดินมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นแสงนำทาง ป้องกันอุบัติเหตุ และเสริมบรรยากาศให้อบอุ่นน่าอยู่ สามารถเลือกใช้โคมไฟแบบฝังพื้น โคมไฟติดผนัง หรือไฟเส้น ติดตั้งได้ตามจุดที่เหมาะสม เช่น หากเป็นไฟซ่อนใต้ท้องบันได ใต้ม้านั่ง หรือโต๊ะในสวน สามารถใช้ไฟฝังพื้นหรือไฟเส้น แต่หากต้องการติดตั้งบริเวณผนังหรือพื้น ก็เลือกใช้โคมไฟแบบฝังพื้นและโคมไฟติดผนังได้

หลังจากต้อง Work From Home กันมาเป็นเวลานาน การลงทุนซื้อโต๊ะทำงานปรับระดับไฟฟ้า และเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพอาจไม่เพียงพอต่อการสร้างบรรยากาศให้น่าทำงาน การแต่งออฟฟิศในบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน และเพื่อสร้างความโปรดักทีฟในการทำงาน ให้ไอเดียพุ่งกระฉูด Norden Barn B&B จึงมี 15 ไอเดียตกแต่งโฮมออฟฟิศมาเป็นแนวทางให้กับคนทำงานที่บ้านทุกคนกัน!

1. แต่งโฮมออฟฟิศเรียบง่าย เสริมด้วยเก้าอี้ทำงานสไตล์โมเดิร์น

ยุคสมัยเปลี่ยน พฤติกรรมของการอยู่อาศัยก็เปลี่ยนตาม นอกจากต้องเลือกซื้อบ้านให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนอยู่แล้ว ยังจำเป็นต้องเปลี่ยนไอเดียแต่งบ้าน ให้เป็นทั้งบ้านน้อยหลังงามและพื้นที่ทำงาน ในยามที่ต้อง Work form Home หรืออยากเป็นเถ้าแก่น้อย เปลี่ยนบ้านหรือทาวน์โฮมให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศได้อย่างลงตัว ปัจจุบันต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ค่านิยมในการตกแต่ง รีโนเวทบ้าน โดยเฉพาะทาวน์โฮมให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ น่าอยู่ น่าทำงานนั้นกำลังมาแรง นับตั้งแต่ทุกคนได้ทำความรู้จักกับข้อดีของการได้ทำงานที่บ้าน เมื่อครั้งต้องเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด และแม้โควิดจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น เบาบางลงไปทุกทีแล้ว แต่ไอเดียแต่งทาวน์โฮม ให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศก็ไม่เคยลดลง ในทางกลับกันยิ่งฮอตมากกว่าเดิม เพราะค่านิยมในการประกอบธุรกิจส่วนตัว ธุรกิจ SME ขายของออนไลน์ เป็นบล็อกเกอร์ สตรีมเมอร์ หรือแม้แต่เป็น Influencer ก็กำลังเรียกรายได้ให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ และคนวัยทำงาน

สิ่งควรคำนึง ก่อนแต่งทาวน์โฮม ให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ

1. สำรวจพื้นที่ในบ้าน ที่ต้องการแต่งเป็นโฮมออฟฟิศ ส่วนใหญ่มักเลือกชั้น 1 หรือ ชั้น 1 และ 2 สำหรับทาวน์โฮม 3 ชั้น โดยเว้นพื้นที่ชั้น 3 เป็นโซนพักผ่อนของครอบครัว
2. กำหนดงบประมาณ ตามกำลังเงินในกระเป๋า
3. เลือกแบบไอเดียตกแต่งทาวน์โฮม ให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ ตามรูปแบบของธุรกิจ
4. ติดต่อ สอบถามข้อมูล บริษัทที่รับออกแบบตกแต่ง

7 ไอเดียแปลงโฉมทาวน์โฮม ให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ

  1. แปลงโฉมห้องนั่งเล่นในทาวน์โฮม เป็นโฮมออฟฟิศขนาดกะทัดรัด

หากมีพื้นที่ทาวน์โฮมจำกัด สามารถเลือกมุมห้องนั่งเล่นให้กลายเป็นห้องทำงาน โฮมออฟฟิศขนาดเล็ก เหมาะสำหรับคนทำงานที่มีสมาชิกไม่เยอะ หรือทำคนเดียวได้ อยากการขายของออนไลน์ หรือรับทำ Data Analysis เป็นต้น

2. เปลี่ยนห้องอเนกประสงค์ในทาวน์โฮม กลายเป็นโฮมออฟฟิศ ฉบับเกมเมอร์

คนรุ่นใหม่หลายคนต่างหันมาเอาดีด้าน Esports (Electronic Sports) บางคนถึงขั้นผันตัวเป็นสตรีมเมอร์ หารายได้เป็นกอบเป็นกำ สร้างรายได้หลักให้กับครอบครัว เหตุนี้จึงทำให้ต้องพลิกชีวิตทาวน์โฮมที่เอาไว้อยู่อาศัย ให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศขึ้นมาทันที เหมือนอย่างบ้านหลังนี้ ที่เนรมิตห้องอเนกประสงค์ให้กลายเป็นห้องสำหรับสตรีมเกมส์ สร้างเพจ สร้างช่องทาง YouTube, TikTok โดยเฉพาะ

  3.พื้นที่มีจำกัดเลือกมุมนึงของบ้าน ให้กลายเป็นพื้นที่ครีเอทีฟงาน

สายครีเอทีฟอยากสร้างสรรค์ผลงาน ผลิตชิ้นงานส่งลูกค้า หรือตั้งเอเจนซี่เล็กๆ ในบ้าน ด้วยการแปลงโฉมทาวน์โฮม ให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ ด้วยจุดเริ่มต้นเลือกมุมนึงของบ้าน พร้อมจัดวางคอมพิวเตอร์สักตัว พร้อมพื้นที่ไว้ผ่อนคลาย สร้างไอเดียใหม่ๆ ก่อนที่จะเริ่มลงมือตกแต่งโฮมออฟฟิศทั้งชั้น ก็ถือเป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย

  4.เปลี่ยนทาวน์โฮม ให้เป็นโฮมออฟฟิศแบบฉบับแฟชั่นนิสต้า

สายแฟชั่นเป็นต้องร้องกรี๊ด เมื่อได้ไอเดียแปลงโฉมทาวน์โฮมให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ แบบฉบับแฟชั่นนิสต้าโดยเฉพาะ เพียงปรับเปลี่ยนห้องนอนสักห้องให้กลายเป็นจุดดีไซน์เสื้อผ้าต่างๆ พร้อมปรับพื้นที่ชั้นล่าง ให้เป็นแหล่งรวมพลคนรักงานแฟชั่น ก็ลงตัวไม่น้อย

  5.ไม่ว่าสายงานอะไรก็เอาอยู่ กับสไตล์โฮมออฟฟิศเรียบง่าย แบบมินิมอล

โฮมออฟฟิศแบบมินิมอล เรียกว่าเป็นสไตล์ไอเดียการตกแต่งที่ได้รับนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ และคนวัยทำงานในปัจจุบัน เพราะด้วยเอกลักษณ์ของเฟอร์นิเจอร์ไม้ กับโทนสีครีม น้ำตาล ดูอบอุ่น ที่สำคัญใช้งบประมาณไม่เยอะ จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งไอเดียยอดนิยมในการแปลงโฉมทาวน์โฮมให้เป็นโฮมออฟฟิศ

  6.จัดวางมุม Pantry และมุมโต๊ะนั่งประชุมบริเวณชั้นล่างของโฮมออฟฟิศ

ปรับเปลี่ยนพื้นที่ชั้นล่างของทาวน์โฮม ให้เป็นจุดรวมพลของคนทำงาน ไม่ว่าจะมานั่งประชุม ดื่มกาแฟ หรือสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ ภายในโฮมออฟฟิศเล็กๆ แห่งนี้ก็ดีไม่น้อย

  7.ปรับเปลี่ยนพื้นที่หลังบ้าน ให้กลายเป็นสวนนั่งพักผ่อน

เหนื่อยล้ากับการทำงานมาทั้งวัน การเลือกมุมหลังบ้าน หรือหากเป็นทาวน์โฮมหลังมุมมีพื้นด้านข้าง ก็สามารถเนรมิตให้เป็นสวนแห่งการพักผ่อน เพื่อที่จะเบรกความเครียดพร้อมลุยงานต่อไป สวนญี่ปุ่น หรือสวนหิน ที่ใช้งบประมาณไม่เยอะ ก็เป็นทางเลือกที่ดีให้กับคนที่อยากแปลงโฉมทาวน์โฮมเป็นโฮมออฟฟิศน่าทำงาน Tag : ทาวน์โฮม ช็อปเฮ้าส์ เชียงใหม่ แม่โจ้ นอร์ดิก 

SME หรือ Startup เป็นธุรกิจที่ต้องการความ active สูง ต้องขยับตัวเร็วกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ การลงทุนในธุรกิจ SME ต้องเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและลดต้นทุน ได้มากที่สุด ในส่วนของออฟฟิศพบว่าธุรกิจ SME หลายเจ้าเลือกที่จะไม่เช่าพื้นที่ออฟฟิศในอาคารสำนักงาน แล้วเลือกที่จะซื้อ Home Office ด้วยตัวเอง เรามาดูกันว่ามีเหตุผลอะไรบ้างที่เจ้าของธุรกิจ SME เลือกทำงานที่ Home Office 1. Home Office ช่วยลดเวลาการเดินทาง ธุรกิจ SME ยังต้องพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทุกทรัพยากรต้องได้รับการใช้ให้คุ้มค่า เมื่อเทียบกับบริษัทขนาดใหญ่แล้วเงินทุนอาจไม่เท่ากัน แต่เวลาของเจ้าของมี 24 ชั่วโมงเท่ากัน ต้องจัดสรรให้คุ้มค่าเวลาจึงมีค่ามากกว่าเงิน เรามีตัวเลขมาให้คุณลองคิดดูง่ายๆ เร็วๆ หากต้องเดินทางทุกวันคุณจะเสียเวลาไปเท่าไหร่ 2. Home Office ช่วยลดต้นทุน ช่วงเริ่มต้นธุรกิจ SME อะไรประหยัดได้ก็ดี การมีบ้านและออฟฟิศอยู่ที่เดียวกัน สามารถช่วยประหยัดทรัพยากรได้มากกว่าเดิม เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าส่วนกลาง จบได้ในที่เดียว ลองเทียบดูจะเห็นว่าการอยู่ Home Office ได้ประโยชน์จากการลดต้นทุนหลายต่อ เช่น ลดทุนโดนชาร์จค่าไฟ  –เมื่อต้องเช่าออฟฟิศอยู่ในอาคารหลายที่อาจไม่ได้คิดค่าไฟตามจริง ซึ่งไฟฟ้าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการทำธุรกิจ แค่ได้จ่ายตามมิเตอร์จริงก็ทุ่นไปเดือนละหลายพันแล้ว ค่าส่วนกลางที่ไม่จำเป็น – เห็นชัดเจนคือค่าไฟจากลิฟท์ ที่คุณต้องหารร่วมกับออฟฟิศอื่นๆ ถ้าอยู่ Home Office แม้จะมีค่าส่วนกลางเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้มีค่าไฟฟ้าสูงขนาดอยู่บนตึกที่มีลิฟท์ ลดต้นทุนการมีค่าใช้จ่าย Double –  เช่น ค่าอินเทอร์เน็ต เมื่อบ้านกับออฟฟิศอยู่คนละที่กัน ค่าใช้จ่ายก็ x2 แต่ถ้าคุณต้องจ่ายค่าอินเทอร์เน็ตและสาธารณูปโภคให้ออฟฟิศอยู่แล้ว ก็จะสามารถทำให้ตัดค่าใช้จ่ายไปได้อีกหลังหนึ่งเลย การลดต้นทุนต่างๆ ดูเหมือนน้อย พอเอาตัวเลขมารวมกัน คุณอาจจะเห็นว่าสามารถผ่อนบ้านหรือคอนโดได้อีกหลังเลย 3. ทำเลย่านธุรกิจของ Home Office เมื่อเทียบกับเปิดเอง พอจะเห็นข้อดีของการที่ออฟฟิศไม่ได้อยู่บนตึกบ้างแล้ว แต่ถ้าเกิดจะอยากไปเปิดเองอย่าลืมเรื่องของ “ทำเลที่ตั้ง” ซึ่ง Home Office ช่วยให้ประโยชน์ด้านทำเลได้หลายอย่าง เช่น ลูกค้ามาง่าย – Home Office ที่ดูสะอาดตั้งแต่หน้ารั้วโครงการ ก็ช่วยเพิ่มราศีให้ลูกค้าอยากแวะมาคุยงานได้บ่อยขึ้น ใช้รับรองลูกค้าได้เต็มที่ ลูกน้องก็มาง่าย – จะห่วงเจ้าของอย่างเดียวไม่ได้ ทำเลย่านธุรกิจย่อมมีความสะดวกในการเดินทางมากกว่า หากชีวิตลูกน้องดีขึ้น งานก็ดีขึ้น ที่ตั้งอยู่ใจกลางทำเลที่เหมาะสมกับธุรกิจนั้นๆ ไม่เพียงทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงธุรกิจได้มากขึ้น แต่ชีวิตครอบครัวหลังการทำงานของคุณ ยังได้อาศัยอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดในเวลาเดียวกัน 4. Home Office มีความอิสระสูง เพราะทุกธุรกิจมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะธุรกิจ SME หลายครั้งการที่เช่าออฟฟิศอยู่ร่วมกันบนอาคาร ทำให้เกิดความไม่อิสระในการทำสิ่งที่แตกต่าง แน่นอนว่า “Differentiate” นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้ธุรกิจขึ้นมาเป็นผู้นำได้ ความอิสระให้อะไรได้บ้าง? เลือกเวลาทำงานได้ – บางธุรกิจต้องติดต่อกับคู่ค้าที่ต่างประเทศเวลาไม่ตรงกันกับที่เมืองไทย ถ้าไปเช่าออฟฟิศบนตึกนี่อาจจะต้องดูดีๆ เพราะบางที่ปิดแอร์ตึกตอนสองทุ่ม การตกแต่งออฟฟิศ –มันค่อยน่าลงทุนหน่อย ถ้าลงทุนไปแล้วมันยั่งยืน การลงทุนตกแต่งออฟฟิศตามความฝัน ลงทุนไปบนพื้นที่ของเราเอง สามารถตกแต่งออฟฟิศได้ตามใจ เลือกไลฟ์สไตล์ของตัวเอง – ออฟฟิศบางที่ยินดีให้พนักงานสามารถใส่กางเกงขาสั้นไปทำงานได้ เพราะสนใจที่งานมากกว่าการแต่งกาย แต่ถ้าวันไหนพบลูกค้าค่อยเมคอัพ ถ้าเกิดอยู่บนตึก ไม่สามารถทำวัฒนธรรมแบบนี้ได้เลย หรือจะเอาจักรยานมาจอดถึงโต๊ะทำงานก็ยังได้ หรือจะเลี้ยงน้องหมาดีล่ะ? 5. เปลี่ยนค่าเช่าเป็นสินทรัพย์ อย่างที่ทราบกันดีว่า “ที่ดินไม่เคยราคาถูกลงมีแต่เพิ่มขึ้น” ลองคิดกลับกัน เปลี่ยนค่าเช่าออฟฟิตทุกเดือนเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกวันด้วย Home Office 6. Home Office มี Facility ครบครัน การที่ SME ไปเปิดออฟฟิศข้างนอก จะทำให้ขาด Facility หลายอย่างที่เป็นประโยชน์กับธุรกิจ เช่น ระบบความปลอดภัย – ออฟฟิศข้างนอกอาจไม่มี รปภ. จึงมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มากกว่า ความสะดวกสบาย – ส่วนกลางของ Home Office มีบริการสระว่ายน้ำและฟิตเนส ทำให้พนักงานมีสวัสดิการเหล่านี้เพิ่ม โดยที่คุณไม่ต้องลงทุนด้วยตัวเอง การดูแลรักษา – เมื่อเกิดเหตุขัดข้องต่างๆ ในออฟฟิศหรือบ้านของคุณ ก็ยังมีส่วนกลางคอยให้ความช่อยเหลือได้ตลอดเวลา ผู้ติดต่อจอดรถง่าย – เมื่อเทียบกับไปเช่าออฟฟิศบนตึกที่ต้องขับวนจนถึงดาดฟ้า หรือเช่าตึกแถวหน้าถนนนี่ยิ่งซวยกว่าเพราะที่จอดแทบจะหาไม่ได้ ถ้าเป็น Home Office จอดแปะก็ยังได้เลย และที่สำคัญ หลายๆโครงการจะมีพื้นที่จอดส่วนกลางให้ มีมากกว่า 50 คัน ทำให้เดินทางได้สะดวกสบาย 7. การลงทุนที่คุ้มค่า สำหรับที่ดินทำเลดีๆ อย่างทำเลติดถนนใหญ่ เพชรเกษม ที่เป็นถนนสายสำคัญ มีแต่คนต้องการจึงทำให้มีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ แม้วันหนึ่งธุรกิจจำเป็นต้องย้ายเพื่อการขยายตัว ก็ยังสามารถ “ทำกำไร” จาก Home Office ได้โดยการ “ปล่อยเช่าหรือขายต่อ ได้ในอนาคต 8. ได้ใกล้ชิดครอบครัว เจ้าของธุรกิจ SME อยู่ในช่วงที่ต้องการความเจริญเติบโต จึงจำเป็นต้องโฟกัสกับธุรกิจมากเป็นพิเศษ เวลาให้ตัวเองและครอบครัวก็มีน้อยลง ซึ่ง Home Office มีส่วนช่วยให้ชีวิตที่ทุ่มเทกับงาน สามารถใกล้ชิดและดูแลครอบครัวได้ในเวลาเดียวกัน 9.ได้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน การที่ได้ทำงานใน Home Office ในมุมมองของเจ้าของกิจการแล้วถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะจะได้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่ที่บ้านตลอดทั้งวัน อยากพักผ่อนเวลาไหนสามารถขึ้นไปพักผ่อนได้ตามเวลาที่เหมาะสม Tag : โฮมออฟฟิศ ทาวน์โฮม เชียงใหม่ แม่โจ้ สันทราย